รำลึก 151 ปี ชาตกาล หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต พระภิกษุฝ่ายธรรมยุติกนิกาย
วันพุธที่ 20 ม.ค. 2564 น้อมรำลึกครบ 151 ปี ชาตกาล “หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต” พระภิกษุฝ่ายธรรมยุติกนิกาย ชาวจังหวัดอุบลราชธานี ผู้เป็นบูรพาจารย์สายพระป่า ในประเทศไทย ปฏิบัติตนตามแนวทาง คำสอนพระศาสดาอย่างเคร่งครัด และยึดถือธุดงควัตรด้วยจริยวัตรปฏิปทางดงาม
ได้รับยกย่องให้เป็นพระอาจารย์ใหญ่สาย วัดป่า สืบมาจนปัจจุบัน
สกุลเดิม แก่นแก้ว เกิดเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 20 ม.ค. 2413 ตรงกับ รัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เกิดที่บ้านคำบง ต.โขงเจียม อ.โขงเจียม จ.อุบลราชธานี อาชีพทำนาทำไร่
การศึกษา ท่านอาศัยอา (น้องพ่อ) เป็นผู้สอนให้ ด้วยในสมัยนั้นยังไม่มีโรงเรียน ท่านเรียนอักษรไทย อักษรธรรม และอักษรขอมจนสามารถอ่านออกเขียนได้อย่างรวดเร็ว
อายุ 15 ปี บรรพชาที่วัดบ้านคำบง อันเป็นวัดบ้านเกิด ขณะบวชเณร ศึกษาธรรมะและพระสูตรต่างๆ จนแตกฉาน อายุ 17 ปี บิดาขอร้องให้สึกเพื่อให้ไปช่วยทำงาน จึงสึกตามคำขอร้อง ทั้งที่เสียดายในการลาจากเพศบรรพชิตเป็นที่สุด ถึงกับรำพึงในใจ “หากมีโอกาสเมื่อใดก็จะกลับเข้ามาบวชอีก”
เมื่อออกมาช่วยงานพ่อ-แม่นานพอสมควรแล้ว เห็นว่าสมควรที่จะกลับเข้าไปบวชอีก จึงไปฝากตัวเป็นศิษย์กับหลวงปู่เสาร์ กันตสีโล ที่วัดเลียบ อ.เมือง จ.อุบลราชธานี และเข้าพิธีอุปสมบทที่ วัดศรีทอง หรือวัดศรีอุบลรัตนารามในปัจจุบัน เมื่อวันที่ 12 มิ.ย.2436 มีพระอริยกวี (หลวงพ่ออ่อน) เป็นพระอุปัชฌาย์, พระครูสีเทา ชยเสโน เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระครูประจักษ์อุบลคุณ (หลวงพ่อสุ่ย) เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับนามฉายาว่าภูริทัตโต
อยู่จำพรรษากับหลวงปู่เสาร์ที่วัดเลียบ ในตัวเมืองอุบล หลวงปู่เสาร์สอนวิธีเจริญ กัมมัฏฐานขั้นสมถะใช้คำภาวนาว่า “พุทโธ” เป็นหลัก จนสามารถนำไปปฏิบัติให้เกิดผล และสอนผู้อื่นให้เข้าใจ
ในที่สุดก็ออกเดินธุดงค์เพื่อแสวงหาสัจธรรม ตามป่าเขาลำเนาไพร ไปปฏิบัติธรรม ณ ที่ใดก็จะ เทศนาอบรมสั่งสอน ที่นั่น จนมีศิษย์สาย พระ กัมมัฏฐานทั่วทุกภาคของประเทศไทย
การเดินธุดงค์ไม่ยึดติดสถานที่ ไปอยู่ภาวนาในที่หลายแห่ง ที่ภาคเหนือท่านอยู่ถึง 12 ปี จนได้รับแต่งตั้งให้เป็น “พระครูวินัยธร” ฐานานุกรมของพระอุบาลีคุณูปมาจารย์ (จันทร์ สิริจันโท) เมื่อครั้งจำพรรษาอยู่จังหวัดเชียงใหม่
พอออกจากเชียงใหม่จึงของดการปฏิบัติตามตำแหน่งหน้าที่ ด้วยมีจิตมุ่งมั่นในการปฏิบัติเจริญวิปัสสนากัมมัฏฐาน
ในปี พ.ศ. 2484 ธุดงค์มายังภาคอีสาน และปักหลักจำพรรษาอยู่ที่ชายป่า บ้านนามน ต่อมาในปี พ.ศ. 2487 ท่านมาอยู่จำพรรษาที่วัดป่าบ้านหนองผือ ต.นาใน บั้นปลายชีวิตของท่านมาจำพรรษาที่ วัดป่าสุทธาวาส อ.เมือง จ.สกลนคร
ละสังขารอย่างสงบ เมื่อวันที่ 11 พ.ย. 2492 ที่วัดป่าสุทธาวาส จ.สกลนคร สิริอายุ 79 ปี พรรษา 56
เมื่อวันที่ 25 พ.ย. 2562 ที่ประชุมใหญ่สมัยสามัญขององค์การยูเนสโก ครั้งที่ 40 มีมติรับรองการร่วมเฉลิมฉลองในวาระครบรอบบุคคลสำคัญและเหตุการณ์สำคัญทางประวัติศาสตร์ในวาระปี 2563-2564
ได้ประกาศยกย่องให้เป็นบุคคลสำคัญของโลก สาขาสันติภาพ
ABOUT THE AUTHOR
Hello We are OddThemes, Our name came from the fact that we are UNIQUE. We specialize in designing premium looking fully customizable highly responsive blogger templates. We at OddThemes do carry a philosophy that: Nothing Is Impossible

0 comments:
แสดงความคิดเห็น