ประวัติ หลวงปู่สนธิ์ เขมิโย วัดอรัญญานาโพธิ์ จ.นครพนม

ประวัติ หลวงปู่สนธิ์ เขมิโย วัดอรัญญานาโพธิ์ จ.นครพนม 


 


หลวงปู่สนธิ์ เขมิโย อดีตเจ้าอาวาสวัดอรัญญานาโพธิ์ ต.โพนสว่าง อ.ศรีสงคราม จ.นครพนม พระเกจิชื่อดัง 5 แผ่นดินแห่งเมืองนครพนม เป็นที่เลื่อมใสของชาวนครพนมและจังหวัดใกล้เคียง

เป็นศิษย์สืบสายธรรมหลวงปู่ศรีทัตถ์ ญาณสัมปันโน ผู้สร้างพระธาตุท่าอุเทน อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม และพระพุทธบาทบัวบก อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี

มีนามเดิมว่า สนธิ์ โคตะบิน เกิดเมื่อวันอาทิตย์ที่ 20 เม.ย.2453 ที่บ้านนาโพธิ์ ต.โพนสว่าง อ.ศรีสงคราม จ.นครพนม ท่านเป็นบุตรคนโต ในจำนวนชาย 6 คน หญิง 4 คน

เมื่อครั้งอายุ 18 ปี ออกหาปลาในลำน้ำอูน ขณะนอนตะแคงในท่าพนมมือสองข้างหนุนศีรษะ ผู้เฒ่าผู้แก่ทักว่าจะไม่ได้ครองเรือนเช่นคนทั่วไป แต่จะได้สืบทอดพระพุทธศาสนาตลอดชีวิต

อายุ 20 ปี ญาติถึงแก่กรรม บิดาจึงให้บวชหน้าไฟและอุปสมบทในคราวเดียวกัน ที่วัดศรีชมชื่น ต.โพนสว่าง อ.ศรีสงคราม มีหลวงพ่อแก้ว เป็นพระอุปัชฌาย์, หลวงพ่อเกศ เป็นพระกรรมวาจา และมีหลวงพ่อเกิด เป็นพระกรรมวาจาจารย์

หลังอุปสมบท พรรษาแรกเดินธุดงค์ไป จำพรรษาที่ อ.กุสุมาลย์ จ.สกลนคร อ.โพนสวรรค์ และ อ.ท่าอุเทน นานเป็นเวลา 8 พรรษา



ช่วงที่จำพรรษาอยู่ที่วัดพระธาตุท่าอุเทน ปวารณาฝากตัวเป็นศิษย์หลวงปู่สีทัตถ์ ญาณสัมปันโน พระเกจิชื่อดัง ผู้สร้างพระพุทธบาทบัวบกในยุคนั้น ก่อนจะเดินธุดงค์ไปจำพรรษาที่วัดพระพุทธบาทบัวบก อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี และ จ.หนองคาย ตามลำดับ

จากนั้นข้ามแม่น้ำโขงไปที่แขวงเวียงจันทน์ ประเทศลาว นาน 2 พรรษา และธุดงค์ไปภูเขาควายอีก 4 พรรษา นั่งปฏิบัติธรรมท่ามกลางสัตว์ป่าดุร้าย เช่น หมี เสือโคร่ง

ก่อนธุดงค์ต่อไปในภาคเหนือของไทย 7 จังหวัด และภาคกลางอีก 7 จังหวัด

จนมาถึง จ.นครราชสีมา และกลับมายังบ้านเกิด หลังจากนั้นเดินทางไปสร้างวัด และจำพรรษาที่บ้านเปงจาน อ.โพนพิสัย จ.หนองคาย

กระทั่งทราบข่าวบิดาป่วย จึงเดินทางกลับมายังบ้านนาโพธิ์ เพื่อดูแลอาการ และได้สร้างวัดอรัญญานาโพธิ์ ในปี พ.ศ.2509 อยู่จำพรรษาจนถึงปัจจุบัน

เป็นพระที่มีความสมถะ ใช้ชีวิตแบบเรียบง่ายเวลาเดินธุดงค์จะไม่มีทรัพย์สิน มีค่าติดตัว ไม่สวมรองเท้า และบิณฑบาตก็รับแต่พอฉันในแต่ละมื้อเท่านั้นไม่เก็บสิ่งของมีค่า มักน้อยสันโดษ เป็นอยู่ง่ายๆ กินแต่น้อย ไม่สะสมทรัพย์สิ่งของ จนเป็นที่เคารพเลื่อมใสศรัทธา

สร้างวัดอรัญญานาโพธิ์ เมื่อปี พ.ศ.2509 และยังสร้างโรงเรียนอีก 5 แห่ง และตึกอาพาธสงฆ์ที่ ร.พ.ศรีสงคราม สร้างศาลาการเปรียญวัดกุฏิอีกหลายแห่ง พร้อมตั้งมูลนิธิสนับสนุนทุนเรียนดีแต่ยากจน

เมื่อวัยเข้าสู่ชรา จึงกลับมาจำพรรษาที่วัดบ้านเกิด แต่ด้วยสังขารเป็นสิ่งไม่เที่ยง อาพาธเป็นโรคเส้นเลือดในสมอง ก่อนนำตัวเข้ารักษาที่ ร.พ.ศรีสงคราม เมื่อเดือน พ.ย.2559 แต่อาการไม่ดีขึ้น จึงส่งต่อไปรักษาตัวที่ ร.พ.นครพนม จากนั้นจึงส่งตัวไปรักษาต่อที่ ร.พ.ศรีนครินทร์ จ.ขอนแก่น นาน 2 เดือน ก่อนกลับมารักษาตัวที่ ร.พ.ศรีสงคราม

เมื่อวันที่ 5 ก.ย.2560 มรณภาพ อย่างสงบ สิริอายุ 108 ปี พรรษา 88

Share this:

ABOUT THE AUTHOR

Hello We are OddThemes, Our name came from the fact that we are UNIQUE. We specialize in designing premium looking fully customizable highly responsive blogger templates. We at OddThemes do carry a philosophy that: Nothing Is Impossible

0 comments:

แสดงความคิดเห็น