ประวัติ หลวงพ่ออี๋ พุทธสโร วัดสัตหีบ จ.ชลบุรี

ประวัติ หลวงพ่ออี๋ พุทธสโร วัดสัตหีบ จ.ชลบุรี



“พระครูวรเวมุนี” หรือ “หลวงพ่ออี๋ พุทธสโร” พระเกจิชื่อดังแห่งภาคตะวันออก จ.ชลบุรี

วัดสัตหีบ หรือที่คนทั่วไปรู้จักกันในนาม “วัดหลวงพ่ออี๋” เนื่องเพราะหลวงพ่ออี๋เป็น ผู้สร้างวัดนี้ขึ้นโดยตั้งอยู่เลขที่ 333 หมู่ 1 ถนนชายทะเล ต.สัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี

มีนามเดิมว่า อี๋ ทองขำ เกิดเมื่อวันอาทิตย์ที่ 1 ต.ค.2408 ที่ ต.สัตหีบกิ่ง อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี

เมื่ออายุ 25 ปี เข้าพิธีอุปสมบทที่วัด อ่างศิลานอก มีพระอาจารย์จั่น จันทโส เป็นพระอุปัชฌาย์ ได้รับฉายาว่า พุทธสโร

หลังอุปสมบท ศึกษาพระธรรมวินัยในสำนักของพระอุปัชฌาย์รวม 6 พรรษา ทั้งท่องบ่นพระพุทธมนต์ และพระปาฏิโมกข์

ต่อมาศึกษาวิปัสสนาธุระ ในสำนักของท่านพระครูนิโรธาจารย์ (หลวงพ่อปาน) วัดบางเหี้ย จ.สมุทรปราการ จนมีความชำนาญ จึงกลับมาจำพรรษาที่วัดอ่างศิลา

พรรษาที่ 11 กลับมาเยี่ยมญาติที่วัดสัตหีบ และในพรรษานั้นเองท่านได้ร่วมมือกับญาติโยมจัดการย้ายสำนักสงฆ์เดิมที่มีอยู่ที่ หัวตลาดมาสร้างที่วัดสัตหีบในปัจจุบัน

และญาติโยมได้อาราธนาให้ท่านปกครองวัดสัตหีบ สืบจนสิ้นอายุขัยของท่าน

หลวงพ่ออี๋ เป็นพระเถระที่มีศีลาจารวัตรงดงาม มีเมตตาธรรม เป็นพระสงฆ์ผู้ปฏิบัติดี เคร่งครัดในพระธรรมวินัย ให้การสงเคราะห์แก่ผู้เดือดร้อนและผู้ที่เจ็บป่วยไข้ด้วยยาแผนโบราณและเวทมนตร์คาถา

ตำนานเล่าขานว่าเมื่อครั้งสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 กองทัพพันธมิตรได้โจมตีฐานทัพเรือสัตหีบ ซึ่งอยู่ในน่านน้ำ อ.สัตหีบ แต่ปรากฏว่าลูกระเบิดที่ทิ้งลงมาจากเครื่องบินไม่ลงมาในพื้นที่สัตหีบแม้แต่ลูกเดียว
มีผู้เห็นว่าในขณะที่เกิดสงครามมีการทิ้งระเบิดจากเครื่องบินอยู่นั้น หลวงพ่ออี๋ได้นั่งบำเพ็ญจิตตภาวนาอยู่กลางแจ้ง อธิษฐานจิต ทำให้ลูกระเบิดจากเครื่องบินกองทัพพันธมิตรที่โจมตีฐานทัพเรือสัตหีบเที่ยวแล้วเที่ยวเล่าไม่ลงมาในพื้นที่สัตหีบเลยแม้แต่ลูกเดียว

ประชาชนชาวสัตหีบจึงเลื่อมใสศรัทธาในพระบุญญาธิการของหลวงพ่ออี๋ จนเกิดความเคารพเลื่อมใสศรัทธามาอย่างไม่เสื่อมคลาย
ในขณะที่ท่านยังมีชีวิตอยู่ได้สร้างคุณงามความดีไว้ให้กับ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี อย่างมากมาย อาทิ สร้างโรงเรียนประชาบาลบั๊กเส็งขึ้นภายในวัดสัตหีบ ปัจจุบันได้ย้ายไปตั้งและทำการอยู่ที่ถนนบ้านนา และเปลี่ยนชื่อเป็นโรงเรียนสัตหีบจนถึงปัจจุบัน ในการให้การศึกษาแก่เยาวชนในท้องถิ่น

ด้านวัตถุมงคลท่านสร้างไว้ให้เป็นขวัญและกำลังใจของประชาชนไว้แจกทหารเรือหรือ เสื้อยันต์ ผ้าพันหมวก ที่ขึ้นชื่อมากที่สุดในบรรดาเครื่องรางของท่าน ได้แก่ ปลัดขิก ที่มี ชื่อเสียงในด้านมงคล ทำมาค้าขึ้นที่ผู้คนนิยมเช่าไปบูชากัน

หลวงพ่ออี๋เริ่มอาพาธด้วยอาการฝีที่คอตั้งแต่เดือนมีนาคม 2489 ท่านได้เอายาสมุนไพรปิดพอกบ้าง แต่อาการไม่ทุเลาลง จนโรคฝีได้กำเริบ ทำให้ท่านพักการทำวัตรสวดมนต์ กำลังของท่านเริ่มถดถอยลง ตามลำดับ

พอถึงวันที่ 20 ก.ย.2489 ตรงกับแรม 10 ค่ำ เดือน 10 ปีจอ เวลา 21.05 น. ท่านละสังขารอย่างสงบ สิริอายุ 82 ปี พรรษา 57
จนถึงปัจจุบันชื่อเสียงของท่านยังเป็นที่บอกกล่าวเล่าขานกันสืบต่อมา และบารมีของท่านและวัดสัตหีบ (วัดหลวงพ่ออี๋) ก็ยังคงอยู่ตราบนานเท่านาน

ด้วยเหตุนี้ วัดสัตหีบจึงได้จัดงานประจำปีติดต่อกันมาเพื่อให้ศิษยานุศิษย์และ ผู้ที่มีความเลื่อมใสศรัทธาหลวงพ่ออี๋ ร่วมทำบุญบำเพ็ญกุศลอุทิศถวายแด่ท่าน และรายได้จากการจัดงานได้นำไปก่อสร้างและซ่อมแซมเสนาสนะวัดสัตหีบ มอบเป็นทุนการศึกษาให้กับเด็กนักเรียนในแต่ละปี และบริจาคเป็นสาธารณกุศลต่างๆ อีกเป็นจำนวนมาก

ทุกวันนี้ เกียรติคุณความขลังและความศักดิ์สิทธิ์ยังเป็นที่กล่าวขวัญสืบมาจนถึงบัดนี้

Share this:

ABOUT THE AUTHOR

Hello We are OddThemes, Our name came from the fact that we are UNIQUE. We specialize in designing premium looking fully customizable highly responsive blogger templates. We at OddThemes do carry a philosophy that: Nothing Is Impossible

0 comments:

แสดงความคิดเห็น