ประวัติ หลวงพ่อพิธ พระเกจิชื่อดังแห่ง วัดฆะมัง จ.พิจิตร

ประวัติ หลวงพ่อพิธ พระเกจิชื่อดังแห่ง วัดฆะมัง จ.พิจิตร

 


 

 

“หลวงพ่อพิธ” พระเกจิชื่อดังแห่งวัดฆะมัง ต.ฆะมัง อ.เมือง จ.พิจิตร มีความเชี่ยวชาญวิทยาคมเป็นที่เลื่องลือไปทั่วสารทิศ เป็นพระเกจิอาจารย์ชื่อดัง วิทยาคมเข้มขลัง

เป็นศิษย์สืบสายธรรมจากหลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน จ.พิจิตร

มีนามเดิม พิธ ขมินทกูล เกิดเมื่อวันที่ 14 มี.ค.2418 ตรงกับวันอังคาร แรม 5 คํ่า เดือน 4 ปีกุน ที่บ้านบางเพียร หมู่ที่ 4 ต.ฆะมัง อ.เมือง จ.พิจิตร เป็นบุตรของขุนหิรัญสมบัติ (ประดิษฐ์ ขมินทกูล) มารดา ชื่อนางปุย

อายุ 22 ปี เข้าพิธีอุปสมบท เมื่อปี พ.ศ.2440 ที่พัทธสีมาวัดบึงตะโกน อ.เมือง จ.พิจิตร โดยมีพระครูธรรมทัสสีมุนีวงค์ (เอี่ยม) เจ้าคณะจังหวัดพิจิตรในขณะนั้น เป็นพระอุปัชฌาย์, พระมหาวิจิตร วัดฆะมัง เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระอาจารย์พลอย วัดราชช้างขวัญ เป็นอนุสาวนาจารย์

จากนั้นไปจำพรรษาตามวัดต่างๆ เพื่อศึกษาหาความรู้ด้านพระปริยัติธรรม เพื่อนำความรู้ที่ได้มาใช้ให้เป็นประโยชน์ต่อไปในภายภาคหน้า

อาทิ วัดบางมูลนาก อ.บางมูลนาก จ.พิจิตร, วัดท่าถนน ซึ่งเป็นวัดอยู่ในตลาดอุตรดิตถ์ จ.อุตรดิตถ์ วัดหัวดง อ.เมือง จ.พิจิตร โดยเฉพาะวัดหัวดง จำพรรษาอยู่นานที่สุด

อีกทั้งยังมีวัดวังปราบ จังหวัดนครสวรรค์ ฝึกวิชารักษาฝีในท้องกับพระอาจารย์สิน

ที่วัดบางคลาน อ.โพทะเล เพื่อฝากตัวเป็นลูกศิษย์หลวงพ่อเงิน และได้เรียนวิปัสสนากัมมัฏฐาน ตลอดจนความรู้ต่างๆ จนเป็นที่แตกฉาน จึงได้มาจำพรรษาที่วัดฆะมัง บ้านเกิดเมืองนอนของท่าน

นอกจากจะได้ศึกษาเล่าเรียนจากพระเกจิอาจารย์ต่างๆ แล้วยังได้เล่าเรียนวิชาความรู้จากปู่อีกด้วย นับว่าเป็นผู้เสาะแสงหาความรู้อย่างแท้จริง

เป็นพระที่มักน้อย ถือสันโดษ และไม่ยอมสะสมเงินทองจึงมีความมุ่งมั่นที่จะสร้างถาวรวัตถุเพื่อบำรุงพุทธศาสนาให้ยั่งยืนสืบไป จึงได้สร้างอุโบสถถึง 5 หลัง คือ วัดฆะมัง, วัดดงป่าคำใต้ (วัดใหม่คำวัน), วัดบึงตะโกน, วัดสามขา และวัดหัวดง

ด้วยความที่เป็นพระที่มีวัตรปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ จึงมีชื่อเสียงโด่งดังเป็นที่รู้จักอย่างรวดเร็ว ในแต่ละวันจะมีญาติโยมจากทั่วสารทิศเดินทางมากราบนมัสการรับฟังธรรมและขอวัตถุมงคลไว้เป็นที่ระลึกถึง อาทิ ภาพถ่ายเล็กๆ ด้านหนึ่ง ส่วนอีกด้านหนึ่งเป็นภาพหลวงพ่อเงิน (พระอาจารย์ของหลวงพ่อพิธ), ตะกรุดมหารูด, ขี้ผึ้งวิเศษ

อย่างไรก็ตาม เมื่อไปนมัสการและขอสิ่งที่เป็นที่ระลึก ก็จะเตือนเสมอว่า “สิ่งที่มอบให้นี้ เป็นประหนึ่งว่าเราได้มาพบหน้าตากัน มีความเคารพต่อกันดุจญาติพี่น้องและสิ่งเหล่านี้ขอให้เข้าใจว่าเป็นอนุสรณ์ต่อกันเมื่ออยู่ห่างไกล สิ่งหนึ่งที่ควรใฝ่ใจมากๆ คือ 1.จงอย่าประมาท 2.คุณพระพุทธคุณ คุณพระธรรม คุณพระสงฆ์ คุณบิดา คุณมารดา 3.จงมีศีล มีสัตย์ ภัยพิบัติจะมาไม่ถึงเพราะมีอำนาจทิพย์คอยรักษาคุ้มครองอยู่ และ 4.เมื่อใดสิ่งของอันเป็นที่ระลึกแล้วควรมีปัญญาคือ อย่าเบียดเบียนผู้อื่นให้ได้รับทุกข์อุปมาดั่ง

ช่วงบั้นปลายชีวิต สังขารเริ่มโรย ตรากตรำต่อการทำงานและหน้าที่พระคณาจารย์ ตลอดระยะเวลาอันยาวนาน ทำให้เริ่มมีอาการอาพาธหนัก สุขภาพร่างกายไม่แข็งแรง

สุดท้าย มรณภาพด้วยอาการอันสงบ เมื่อวันที่ 16 ต.ค.2488 ที่วัดฆะมัง สิริอายุ 70 ปี

สร้างความเศร้าสลดมาสู่พุทธศาสนิกชนผู้เลื่อมใสศรัทธาเป็นยิ่งนัก

ภายหลังมรณภาพ บรรดาคณะศิษยานุศิษย์และญาติพี่น้อง ต่างปรึกษาหารือกันว่า ในขณะที่ยังมีชีวิตอยู่นั้น ประกอบทำคุณงามความดีมากมาย ตลอดจนเป็นศิษย์เอกหลวงพ่อเงิน จึงตกลงกันว่า ควรสร้างหล่อรูปเหมือนเท่าองค์จริงไว้

ทั้งนี้ หลังจากประชุมเพลิงหลวงพ่อพิธ มีสิ่งอัศจรรย์เกิดขึ้น คือ ดวงตาทั้งสองไฟเผาไม่ไหม้ ชาวบ้านจึงเรียกขานท่านว่า “หลวงพ่อพิธตาไฟ”

คณะกรรมการผู้เก็บรักษาดวงตา ซึ่งไม่ไหม้ไฟ เห็นสมควรบรรจุดวงตาของท่านไว้ในรูปเหมือนขนาดเท่าจริง เพื่อเป็นที่สักการะ ที่วัดฆะมัง อ.เมือง จ.พิจิตร ตราบจนทุกวันนี้


Share this:

ABOUT THE AUTHOR

Hello We are OddThemes, Our name came from the fact that we are UNIQUE. We specialize in designing premium looking fully customizable highly responsive blogger templates. We at OddThemes do carry a philosophy that: Nothing Is Impossible

0 comments:

แสดงความคิดเห็น